วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รีวิว - Lenovo IdeaCentre A520 ที่สุดของ คอมพิวเตอร์ All-in-one หน้าจอทัชสกรีน ครอบคลุม

 รีวิว Lenovo IdeaCentre A520
รีวิว Lenovo IdeaCentre A520
Lenovo IdeaCentre A520 จัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์ประเภท All-in-one สุดแรง หน้าจอ Full HD อย่างแท้จริง รองรับการทัชสกรีนได้ถึง 10 จุด เหมาะกับเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสำหรับเกมเมอร์, โฮมเธียเตอร์, ดีไซน์กราฟิก และการทำงานด้านอื่นๆ ได้ดั่งใจ โดย IdeaCentre A520 มาพร้อมกับหน่วยประมวล Intel Core i7, Ram 8 GB และระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่จะทำให้คุณได้ใช้งานร่วมกับจอทัชสกรีนอย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังมี "Lenovo Rescue System" ที่ให้คุณได้แบ็คอัพ และกู้ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย

สเปคของ คอมพิวเตอร์ Lenovo IdeaCentre A520
  • หน่วยประมวลผล Intel Core i7-3630QM ความเร็ว 2.40GHz
  • หน้าจอ LCD ทัชสกรีนได้สูงสุด 10 จุด ขนาด 23 นิ้ว (Full HD 1920 x 1080 px)
  • กราฟิก Nvidia GeForce 610 2GB
  • Ram 8 GB (1600 MHz)
  • ฮาร์ดไดร์ฟ SATA III 1 TB (5400 rpm)
  • ลำโพงแบบ Dolby Home Theater v4
  • การเชื่อมต่อ
    • Card Reader
    • รองรับ DVD Super Multi และ BD Combo
    • USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ท
    • USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ท
    • พอร์ทเชื่อมต่อ Ethernet 
    • HDMI & TV tuner
    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
    • ไมโครโฟน 3.5 มิลลิเมตร
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 8 (64 bit)
  • ขนาด 22.08 x 13.61 x 8.29 นิ้ว
  • น้ำหนัก 21.6 ปอนด์ (เกือบๆ 10 กิโลกรัม)
  • ซอฟต์แวร์
    • MS Office 2010
    • Lenovo Assistant
    • Lenovo Setting
    • Lenovo Cloud Storage by SugarSync (5 GB)

แกะกล่อง Lenovo IdeaCentre A520 Desktop All-in-one
Lenovo IdeaCentre A520_01
กล่องบรรจุ Lenovo A520 ค่อนข้างใหญ่พอสมควร
Lenovo IdeaCentre A520_02
มีรายละเอียดสเปคตัวเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ บอกไว้ด้านข้างกล่อง
Lenovo IdeaCentre A520_03
มาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่า จะสังเกตว่าข้างในกล่องมีโฟมกันกระแทก และอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถูกแพ็คมาเป็นอย่างดี
Lenovo IdeaCentre A520_04
อุปกรณ์โดยรวม หลังจากที่นำออกมาจากกล่องแล้ว ได้แก่ ตัวเครื่อง, คีย์บอร์ด, เมาส์, คู่มือการใช้งาน, แผ่นซีดีไดร์ฟเวอร์ และสาย Power นั่นเองครับ

ตัวเครื่อง
Lenovo IdeaCentre A520_05
หน้าตาของตัวเครื่องในรูปแบบพับ ซึ่งจะมีพลาสติกล็อคไว้ ไม่ให้หน้าจอ และฐานตั้งได้รับความเสียหาย หรือขยับไปมานั่นเอง
Lenovo IdeaCentre A520_06
ดูกันชัดๆ สำหรับตัวเครื่อง ออกแบบมาได้ดีเยี่ยมจริงๆ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่การใช้สอยไปเยอะพอสมควร
Lenovo IdeaCentre A520_07
ก่อนจะปรับระดับหน้าจอ ออกมา ต้องแกะพลาสติกที่ล็อคไว้ก่อนนะ และยังมีขั้นตอนการวางตัวเครื่องที่ถูกต้องบอกเราไว้ด้วย
Lenovo IdeaCentre A520_08
ฐานด้านขวาของตัวเครื่อง มีช่องสำหรับใส่ CD/ DVD และ Blu-ray
Lenovo IdeaCentre A520_09
ด้านหลังมีพอร์ทการใช้งานหลักๆ และโลโก้ Lenovo ขนาดใหญ่ เด่นมาเชียว
Lenovo IdeaCentre A520_10
บริเวณด้านหลังฝั่งซ้ายมี ช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟน, USB 3.0 และ USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ท
Lenovo IdeaCentre A520_11
ส่วนด้านขวาเป็นสาย Power, พอร์ท Ethernet และที่ล็อคเครื่อง
Lenovo IdeaCentre A520_12
มาต่อกันที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นช่องระบายความร้อน USB 2.0, พอร์ท HDMI-IN และ HDMI-OUT 
Lenovo IdeaCentre A520_13
ด้านหน้าของฐานตัวเครื่องเป็นลำโพง และ Card Reader
Lenovo IdeaCentre A520_14
คีย์บอร์ด และเมาส์ไร้สาย ออกแบบมาได้เข้ากับตัวเครื่องดี ส่วนการใช้งานตอนแรกๆ อาจจะไม่ถนัด แต่เมื่อได้ใช้ไปสักพักจะรู้สึกชอบมาทันทีเลยครับ
Lenovo IdeaCentre A520_15
คีย์บอร์ดค่อนข้างเบา และบาง ประหยัดพื้นที่ได้ไปเยอะเลยทีเดียว
Lenovo IdeaCentre A520_16
ส่วนเมาส์ก็ใช้งานได้คล่องมือดี และใช้ถ่าน AAA จำนวนหนึ่งก้อน
Lenovo IdeaCentre A520_18
บริเวณด้านซ้ายของหน้าจอ มีไฟแสดงสถานะต่างๆ เช่น Power, Bluetooth หรือ Wi-Fi เป็นต้น
Lenovo IdeaCentre A520_19
ด้านขวาเป็นคีย์ลัดในการเปิด/ ปิด หน้าจอ, แสดงผลหน้าจอในอุปกรณ์อื่นๆ, ปรับรูปแบบในการแสดงผลของหน้าจอ, ปรับระดับเสียง และปรับความสว่างหน้าจอ
Lenovo IdeaCentre A520_20
ขอบหน้าจอด้านขวามีปุ่ม Power เปิด/ ปิด เครื่อง
Lenovo IdeaCentre A520_21
ฐานตัวเครื่องมีสัญลักษณ์ Dolby HDMI, Intel Core i7 และเครื่องหมายประหยัดพลังงาน Energy Star
Lenovo IdeaCentre A520_22
จะสังเกตได้ว่า Lenovo ออกแบบ IdeaCentre A520 มาได้ลงตัวมากๆ ช่วยให้เราประหยัดพื้นที่ของโต๊ะทำงานไปเยอะเลยครับ

สรุปการดีไซน์ของ คอมพิวเตอร์ Lenovo All-in-one รุ่น IdeaCentre A520
Lenovo IdeaCentre A520_23
ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกของ Lenovo IdeaCentre A520 รุ่นนี้ ต้องบอกว่าออกแบบมาได้ลงตัว สมกับเป็นคอมพิวเตอร์ All-in-one ทั้งจุดเด่นที่หน้าจอทัชสกรีน คมชัดถึงระดับ Full HD สามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดียได้อย่างเต็มที่, พอร์ทการเชื่อมต่อที่ครบครัน รวมถึงคีย์บอร์ด และเมาส์ที่ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการวางไปอีกขั้นหนึ่งครับ

รีวิว ส่วนของการใช้งาน Lenovo IdeaCentre A520
SS_IdeaCentre A520_01
ในส่วนของการใช้งาน Windows 8 ก็ไม่มีอะไรมากครับ สำหรับใครที่เคยใช้ Windows 8 มาแล้ว จะรู้สึกว่าใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะว่าเป็นจอแบบทัชสกรีน นอกจากนี้ในรุ่นนี้ยังมีโปรแกรม "Lenovo Apps" แถมมาให้ด้วยนะ เช่น Lenovo Cloud Storage by SugarSync ที่จะช่วยคุณในการแบ็คอัพข้อมูลบนเครื่อง เป็นต้น

SS_IdeaCentre A520_02
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเจ้า Lenovo IdeaCentre A520
SS_IdeaCentre A520_03
คะแนนแต่ละด้านที่ได้ ถือว่าค่อนข้างสูงมากครับ
SS_IdeaCentre A520_04
รายละเอียดของหน่วยประมวล จากโปรแกรม CPU-Z บ่องตง ว่าแรงมาก
SS_IdeaCentre A520_05
ในส่วนของการ์ดจอก็ไม่น้อยหน้า เล่นเกมหนักๆ หรือทำงานกราฟิกดีไซน์ได้อย่างสบายๆ
Webcam_IdeaCentre A520_
กล้องเว็บแคม คมชัด เห็นสิวที่หน้าเลยทีเดียว ไม่เหมือนเว็บแคมบนคอมพิวเตอร์ทั่วไป


รีวิว - VAIO® Pro 11 สุดยอดอารยธรรมอัลตราบุ้ค ที่สุดของความเบา เร้าใจด้วยความบาง

เมื่อได้ยินว่าจะได้รีวิว Ultrabook ของ Sony ผมก็มีความรู้สึกตื่นเต้นทีเดียว ด้วยความที่ผมก็เป็นสาวกอารยธรรม Sony มาเนิ่นนาน ผมหลงเสน่ห์ในดีไซน์ และงานประกอบของค่ายนี้มากเลยล่ะ และเมื่อได้สัมผัสกับ VAIO® Pro 11 ตัวจริง มันก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย (ก่อนหน้านี้แอบผิดหวังกับ VAIO Duo 11) 
สำหรับ VAIO® Pro 11 ผมเชื่อว่าคนที่ได้เห็นและสัมผัสมันครั้งแรก น่าจะตกหลุมรัก Ultrabook ตัวนี้ได้ไม่ยาก เพราะมันบาง และเบาจนน่าประทับใจ แน่นอนว่าดีไซน์ของมันก็น่าทึ่งทีเดียว ตัวเครื่องใช้คาร์บอนไฟเบอร์ชึ้นรูปเพียงชิ้นเดียวต่อบอดี้พาร์ท ทำให้มันดูสวยงามและยังคงแข็งแรง ข้อดีอีกอย่างของคาร์บอนไฟเบอร์คือน้ำหนักที่น้อยกว่าอลูมิเนียมอีกด้วย
DSC05523_resize
คุณสมบัติของ VAIO® Pro 11 (Model: SVP11215SHBI)
  • ระบบปฏิบัติการ  Windows 8 Single Language 64 bit (English Version) / Language Pack  ไทย
  • ซีพียูอินเทล เจนเนอเรชั่น 4 ชิพ Intel® Core™ i5-4200U Processor 1.60 GHz พร้อม Turbo Boost up to 2.60 GHz 3 MB (L3 Cache)
  • แรม 4GB (4 GB (On Board)) DDR3 SDRAM*2 (Max) ขยายเพิ่มไม่ได้ Memory Speed 1600 MT/s
  • ฮาร์ดดิสก์ SSD 128GB
  • กราฟฟิคการ์ด Intel® HD Graphics 4400
    • หน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว Full HD ความละเอียด 1920x1080 (190ppi) TFT colour   (TRILUMINOS DISPLAY  ทำให้สีสรรเป็นธรรมชาติ)
    • X-Reality for mobile, Color mode setting (Vivid, Natural, Text)
      มีเซนเซอร์ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
  • USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง (มี 1 ช่องเป็น Charging function ชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ แม้ไม่ได้เปิดเครื่อง)
  • มีช่อง HDMI out 1 ช่อง
  • มีช่อง SD Memory Card Slot
  • การเชื่อมต่อไวไฟ มาตรฐาน Wireless LAN IEEE 802.11a/b/g/n ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
  • มี Bluetooth Ver. 4.0 + HS
  • รองรับการทำงาน NFC
  • แบตเตอรี่จำนวน 4 Cell ใช้งานได้ 7.5 ชั่วโมง ถ้าเพิ่มแบตเสริมจะใช้งานได้ถึง 15.5 ชั่วโมง
  • ขนาดเครื่องกว้าง 285 มม. ยาว 197 มม. หนา 11.8 มม.
  • น้ำหนัก 0.77 กิโลกรัม (รวมแบตเตอรี่แล้ว)
คุณสมบัติอื่นที่น่าสนใจ
  • มี Intel(R) Anti-Theft Technology สามารถล็อคเครื่องระยะไกลได้ในระดับ Bios คนที่ขโมยไปแม้ว่าจะเปลี่ยน Harddisk หรือ Reset Bios ก็ไม่สามารถใช้งานได้ และยังส่งข้อความและค้นหาตำแหน่งเครื่องผ่านอินเตอร์เน็ตได้ด้วย
  • กล้องหน้าขนาด 0.92MP พร้อมเทคโนโลยี Exmor R for PC ความละเอียดภาพ 1280x720
  • การฟังเพลงมีฟีเจอร์เด่นเหมอืนใน Sony Walkman ไม่ว่าจะเป็น ClearAudio+ mode (Music, Video), S-FORCE Front Surround 3D, "Clear Phase", "xLOUD", "VPT", "Voice Zoom", "Sound Optimizer"
  • คีย์บอร์ด Backlit แบบ 82 คีย์
  • ทัชแพด Gesture supported
  • สนับสนุน Intel® Smart Connect Technology supported อัพเดตอีเมล และข่าวสารได้ตลอดเวลาแม้อยู่ในโหมด Sleep
ซอฟท์แวร์ที่มาพร้อมตัวเครื่อง
  • Communication : Socialife
  • Microsoft Office : Microsoft® Office Trial
  • Music : Music app
  • Video & Photo : PlayMemories Home, VAIO Movie Creator, Album app
  • Security : Trend Micro™ Titanium Maximum Security 60 วัน
  • Utilities : VAIO Message Center, VAIO Control Center, VAIO Gesture Control, Xperia Link, Adobe® Reader® XI, Norton™ Online Backup, Intel® AppUp
  • Support : VAIO Care, VAIO Transfer Support, VAIO Update

รีวิว VAIO® Pro 11
การออกแบบของเครื่อง VAIO® Pro 11 ผมว่าฉลาดและเก๋ทีเดียว เก๋ยัง เรามาทำความรู้จักมันไปพร้อมกันดีกว่าครับ ตัวเครื่องเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งมีคุณสมบัติด้านน้ำหนักที่เบา บนฝามีสัญลักษณ์ VAIO เป็นโลหะเงาประทับ แสดงความหรูหรา ขอบเครื่องแต่ละด้านมีลูกเล่นในการออกแบบเล็กน้อยคือทำเป็นมุมเอียง ขอบฝาด้านบนเป็นโลหะเงินดูสวยงาม สังเกตว่าตรงขอบเงินจะมีพลาสติกสีขาวเล็กๆ อยู่ 2 ฝั่ง ทีแรกผมนึกว่าเป็นไฟ LED แต่ที่จริงแล้วมันเป็นขาตั้งครับ
DSC05476_resize
ผมว่าเป็นความเท่และฉลาดมากกับการออกแบบ ที่เมื่อเรายกฝาขึ้น ส่วนที่เป็นขอบล่างหน้าจอจะกลายเป็นขาตั้งทำให้ส่วนคีย์บอร์ดเอียงสูงขึ้นเล็กน้อย เวลาพิมพ์มันจะเมื่อยมือน้อยลงกว่าเดิมเยอะเลยล่ะครับ โดยเจ้าแท่งพลาสติกสีขาวเล็กๆ นั้นก็จะช่วยกันไม่ให้ขอบโลหะขูดกับพื้นโต๊ะจนเป็นรอยนั่นเอง
DSC05485_resize
นี่ครับ เมื่อกางฝาออก เจ้าพลาสติกจะเลื่อนมาอยู่ตำแหน่งด้านล่างแบบนี้
DSC05494_resize
พวกพอร์ทต่างๆ จะวางไว้ที่ด้านขวาของเครื่อง มี ช่องเสียบหูฟัง, USB 3.0 ให้ 2 ช่อง โดยมีช่องหนึ่งที่มีสัญลักษณ์รูปสายฟ้าอยู่ คือเราสามารถเสียบชาร์จแบตฯให้อุปกรณ์อื่นได้โดยไม่ต้องเปิดเครื่องผ่านเจ้าช่องนี้ครับ สุดท้ายเป็นช่อง HDMI น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มี ช่องสำหรับต่อสายแลนนะครับ น่าจะเป็นเพราะต้องการออกแบบให้บางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
DSC05500_resize
อีกฝั่งมีรูสำหรับเสียบหม้อแปลง และช่องระบายความร้อนครับ
DSC05524_resize
สายชาร์จก็เหมือนกับโน้ตบุ้คทั่วไป แต่ตรงหม้อแปลงมีความเก๋เล็กๆ ตรงมีพอร์ท USB ให้มาด้วย สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์ได้ด้วยล่ะ
DSC05530
คีย์บอร์ดไม่มีปุ่มตัวเลขแยกมาให้ แต่ก็ไม่แปลกอะไรสำหรับโน้ตบุ้คขนาด 11 นิ้วนะครับ ถ้าใส่มา ปุ่มคงจะยิ่งชิดกว่านี้ ซึ่งผมว่ามันก็ชิดมากแล้วล่ะตอนนี้ บอดี้ส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดก็ยังคงเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ว่าบริเวณที่รองมือใช้อลูมิเนียมครับ ซึ่งนอกจากจะทำให้สวยงามแล้ว ยังให้สัมผัสที่ดีกว่าคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยครับ มันไม่สากน่ะ
สำหรับทัชแพด รองรับการทำงานแบบ Gesture สามารถใช้ 2 นิ้วซูมภาพ หรือเลื่อนหน้าจอได้ ก็เป็นอีกลูกเล่นที่สะดวกและขาดไม่ได้อีกแล้วสำหรับโน้ตบุ้ครุ่นใหม่ๆ
DSC05509_resize
และแน่นอนว่าคีย์บอร์ดมีไฟ Backlit ให้ด้วย ใช้งานในที่มืดไม่ใช่ปัญหา หุหุ
DSC05511_resize
ลำโพงจะอยู่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ด ซึ่งคุณภาพเสียงของลำโพงถือว่าดีทีเดียว (สำหรับลำโพง Notebook) แม้จะเร่งเสียงจนดังสุด ก็ยังไม่มีเสียงแตกเลยล่ะ มิติดีใช้ได้ (ย้ำว่า เทียบกับลำโพง Notebook ทั่วไป)
DSC05526_resize
หน้าจอของ VAIO® Pro 11 มีความคมชัดและสวยงามมากทีเดียว ใครที่ชอบสีที่โทนออกธรรมชาติผมว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ถ้าชอบสีสดสไตล์ OLED คงจะไม่ชอบเท่าไหร่ และด้วยหน้าจอความละเอียด 185ppi ความคมชัดของภาพและตัวอักษรจะแสดงผลได้อย่างคมชัด
มุมมองหน้าจอก็กว้างทีเดียว เพียงแต่ถ้าเอียงมากแสงและสีจะดรอปลงไปหน่อยแต่ก็ไม่มากครับ
DSC05513_resize

ประสิทธิภาพของเครื่อง VAIO® Pro 11 
สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือ การที่เราสามารถบูทเครื่องไปยังหน้า Log in ภายใน 3 วินาที และเข้าถึงหน้า Start menu ได้ภายใน 5-6 วินาทีเท่านั้น ลองดูความรวดเร็วของการทำงานได้จากวิดีโอรีวิวด้านล่างนี้เลยครับ
ความเห็นจากไทยแวร์
จุดเด่น
  • ตัวเครื่องเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้น้ำหนักเบามาก แต่ยังคงไว้ซึ่งความทนทาน
  • การออกแบบตัวเครื่องและงานประกอบดี
  • ประสิทธิภาพการทำงานรวดเร็ว
  • หน้าจอคมชัดและแสดงผลได้อย่างสวยงาม
  • ลำโพงเร่งเสียงได้ค่อนข้างดัง โดยไม่มี Noise 
จุดด้อย
  • คีย์บอร์ดเล็กและวางค่อนข้างชิดกัน ปรับตัวในการพิมพ์ค่อนข้างมาก
  • แรมสูงสุดแค่ 4GB
  • ทัชแพดแข็งไปหน่อย
ถ้ามองผ่านๆ VAIO® Pro 11 ก็ดูเหมือน Ultrabook ที่วางขายทั่วไปในท้องตลาด แต่ถ้าคุณได้มีโอกาสสัมผัสและลองใช้งานแล้วล่ะก็ มันจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างออกไปจาก Ultrabook ทั่วไปอย่างแน่นอน ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม พอได้ลองถือมัน ก็จะไม่อยากถือรุ่นอื่นอีกเลยล่ะ และมันไม่ได้แค่บางและเบา แต่การออกแบบของมันรวมถึงฮาร์ดแวร์ข้างในมันทำให้เกิดความประทับใจมากทีเดียว
ถ้าใครที่เป็นแฟน VAIO มาก่อน น่าจะจดจำรุ่นในตำนานอย่าง VAIO Z ได้ ผมว่าการดีไซน์ของ VAIO Pro 11 นั้นมีการเอาจุดเด่นของรุ่นพี่มาทำใหม่ให้แหล่มกว่าเดิมได้ลงตัวทีเดียว
ราคาเปิดตัวของ VAIO® Pro 11 อยู่ที่ 35,900 บาท ราคานี้หลายคนอาจจะมองว่าซื้อ MacBook Air ดีกว่าไหม ราคาของ Macbook Air 128GB อยู่ที่ 31,900 บาท ถูกกว่ากันถึง 4,000 บาท ก็ต้องดูไปที่องค์ประกอบอื่นๆ ด้วยล่ะครับ ทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันทั้งในด้านระบบปฏิบัติการและฮาร์ดแวร์ภายใน ซึ่ง VAIO Pro 11 ก็เหนือกว่า MBA อยู่ในระดับนึง (จริงๆ นะ)
จุดที่เห็นชัดและผมมองว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ  VAIO® Pro 11 เลย คือ หน้าจอครับ หน้าจอของอัลตราบุครุ่นนี้คมชัดและสีสรรที่ดีมาก สีจอไม่ได้สดจนหลอกตา แต่ออกโทนสมจริงธรรมชาติ หน้าจอของ VAIO® Pro 11 มีความละเอียดเป็น Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ความหนาแนนของพิกเซล 190ppi มากกว่า MBA ที่ความละเอียด 135ppi เท่านั้น ผมลองไปค้นหาข้อมูลของหน้าจอที่ทาง SONY เรียกว่า Sony’s Triluminos เพิ่มเติม พบว่าเป็นเทคโนโนโลยีตัวเดียวกับที่ Sony ใช้ในจอ 4K Bravia Display
หัวใจหลักได้ซีพียูตัวล่าสุดจากอินเทล เจนเนอเรชั่น 4 Haswell มาใช้ ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ใช้ได้นานกว่าเดิม แต่น่าเสียดายที่การ์ดจอของรุ่นนี้เป็น Intel® HD Graphics 4400 ไม่ได้ใช้รุ่นสูงสุดอย่าง Intel® HD Graphics 5000 แต่ในการใช้งานจริง มันก็สูงมากพอสำหรับการใช้งานอย่างเหลือเฟือจะดูหนังแบบ Full HD หรือเล่นเกม 3 มิติ ทำได้สบายไม่มีปัญหาครับ


รีวิว - เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ Samsung Xpress M2825DW เร็ว เล็ก ประหยัดพื้นที่ในการวาง

ถ้าพูดถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ประจำออฟฟิค เครื่องพิมพ์ก็เป็นอีกหนึ่งที่ทุกออฟฟิคต้องมีติดไว้ สำหรับงานพิมพ์เอกสารแล้วผมว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ ดูจะเข้าท่ากว่าเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทนะ พิมพ์ได้เร็วกว่าคมชัดกว่า และที่สำคัญมีต้นทุนการพิมพ์ที่ถูกกว่าด้วยล่ะครับ 
ครั้งนี้ผมก็มีโอกาสได้ทดลองใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำรุ่นใหม่ที่ทางซัมซุงส่งมาให้ทดสอบการทำงาน รุ่น Samsung Xpress M 2825 DW เป็นเลเซอร์พรินเตอร์ขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพไม่เล็กตามขนาดนะ ทำงานเร็ว และเงียบ รวมถึงสามารถใช้การสั่งพิมพ์งานแบบ Direct Wi-Fi โดยตรง เหมาะกับการใช้งานในออฟฟิคเล็กๆ ได้เป็นอย่างดี หรือออฟฟิคขนาดกลางจะใช้ก็ยังไหวอยู่นะ smiley
2013-09-03_151920
คุณสมบัติของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Samsung Xpress M 2825 DW
  • รูปแบบการพิมพ์ ขาวดำ
  • พร้อมทำงาน สั่งพิมพ์แผ่นแรกได้ภายใน 8.5 วินาที
  • ความเร็วในการพิมพ์ สูงสุด 28 หน้าต่อนาทีสำหรับขนาด A4 (29 หน้าต่อนาทีสำหรับขนาด Letter)
  • ความละเอียดในการพิมพ์ เอาต์พุตสูงสุด 1200 x 1200dpi
  • ทำงานรวดเร็วด้วยโปรเซสเซอร์ 600MHz หน่วยความจำภายใน 128MB
  • ระดับเสียงรบกวน: น้อยกว่า 50dBA (ขณะพิมพ์) / น้อยกว่า 26dBA (สแตนด์บาย)
  • ขนาดเครื่อง 368 x 334.5 x 202มม. (14.5นิ้ว x 13.2นิ้ว x 8นิ้ว) น้ำหนัก 7.4 กิโลกรัม
  • รอบการทำงานสูงสุดต่อเดือน: สูงสุด 12,000 หน้า
  • ขนาดถาดรองรับกระดาษขนาด A4 / A5 / A6 / Letter / Legal / Executive / Folio / Oficio / ISO B5 / JIS B5
  • ขนาดถาดอเนกประสงค์ รองรับกระดาษขนาด A4 / A5 / Letter / Legal / Executive / Folio / Oficio / ISO B5 / JIS B5 / ซองจดหมาย (Monarch, Com10, DL, C5) / กำหนดเอง (76 x 127มม. - 216 x 356มม. / 3นิ้ว x 5นิ้ว - 8.5นิ้ว x 14นิ้ว)
  • ถาดรองรับกระดาษ ตั้งแต่ 60 - 163 แกรม / ถาดอเนกประสงค์ รองรับกระดาษขนาด 60-220 แกรม
  • ถาดรองรับกระดาษ จุกระดาษได้ 250 แผ่น
  • ถาดรองรับกระดาษออก ใส่กระดาษได้สูงสุดแบบคว่ำหน้า 150 แผ่น หงายหน้า 1 แผ่น
  • พิมพ์สองด้านในตัว
  • รองรับการทำงานกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 / 7 / Vista / XP / 2000 / 2008R2 / 2008 / 2003, Mac OS X 10.5 - 10.8, Linux เวอร์ชั่นต่างๆ
  • เชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 / Ethernet 10/100 Base TX / Wireles
  • พิมพ์ไร้สายผ่าน Wi-Fi ได้
  • ตลับหมึกรุ่น MLT-D116S ตลับพิมพ์ได้ประมาณ 1,200 หน้า หรือตลับหมึกรุ่น MLT-D116L ตลับพิมพ์ได้ประมาณ 3,000 หน้า
    (หมึกที่แถมมากับเครื่องจะพิมพ์ได้ 1,200 หน้า)
  • Imaging Unit MLT-R116 ตลับพิมพ์ได้ประมาณ 9,000 หน้า 

การติดตั้งเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ Samsung Xpress M 2825 DW
การติดตั้งง่ายมากครับ แค่เสียบปลั้ก ต่อสายเข้ากับระบบ หรือจะเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ผ่าน W-Fi ก็ได้ ผมเลือกต่อผ่าน Wi-Fi ละกันครับ จะได้ไม่มีสายให้เกะกะ อิอิ
ให้เราใส่แผ่น CD ที่ให้มาในกล่อง มันจะเปิดแผ่นขึ้นมาอัตโนมัติ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เข้าไปในแผ่น CD แล้วกด Setup เองครับ
ก็กดยอมรับข้อตกลง แล้วก็กด Next
2013-09-03_163846
โปรแกรมจะติดตั้งทุกอย่างเองให้อัตโนมัติ
2013-09-03_165828
2013-09-03_165923
เอาล่ะ รอจนเสร็จ ซึ่งไม่นานเลยครับ 2-3 นาทีเท่านั้น ผมก็ได้ไอคอนโปรแกรมเพิ่มเข้ามา 5 ตัว ประกอบไปด้วย
Samsung Easy Printer Manager, order Supplies, view User's Guide, Samsung Easy Wireless Setup และ Uninstall Samsung Printer
2013-09-03_171150

Samsung Easy Printer Manager
โปรแกรมนี้ใช้สำหรับ ดูสถานะของเครื่องพิมพ์ หมึกพิมพ์ที่เหลือครับ และมี User Guide ด้วย ใครข้องใจการใช้งานจุดไหน ก็เข้ามาอ่านได้ แต่ดูแล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้ปรับแต่งมาก ประโยชน์หลัก คือดูสถานะหมึกกับกระดาษในเครื่องเท่านั้นครับ
2013-09-03_172338
Order Supplies
มีประโยชน์สำหรับใช้ซื้อหมึกพิมพ์ครับ โดยมันจะบอกรุ่นเครื่องพิมพ์ที่เราใช้ และรุ่นของตลับหมึกที่ใช้งาน
2013-09-03_173117
หากกดปุ่ม Order Supplies จะเปิดหน้าร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงให้เราสั่งซื้อหมึกได้เลย
2013-09-03_173456

ดีไซน์ของ Samsung Xpress M 2825 DW
เป็นทรงสี่เหลี่ยมไม่มีอะไรยื่นออกมา เน้นประหยัดพื้นที่ในการจัดวางครับ
DSC05546_resize
การใส่กระดาษทำได้ 2 ทาง ช่องบนนี้ใส่ทีละแผ่น ใช้สำหรับเวลากระดาษที่เราจะพิมพ์มีความหนาและแข็งกว่าปกติครับ
DSC05547_resize
ช่องล่างเป็นถาดปกติ ใส่ได้ทีละ 150 แผ่น
DSC05563_resize
ตรงนี้เป็นมิเตอร์ สามารถแสดงปริมาณกระดาษที่เหลือได้คร่าวๆ ครับ
DSC05548_resize
รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ตรงที่ถาดใส่กระดาษจะยื่นออกมาข้างหลัง (นี่ผมปรับขนาดถาดไว้ที่สำหรับกระดาษ A4) แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สักเท่าไหร่
DSC05551_resize
ฝาด้านหลังเปิดออกมาได้ เผื่อมีปัญหากระดาษติด ก็ดึงออกทางด้านหลังนี่แหละ
DSC05553_resize
การทำงานทั้งหมดควบคุมจะผ่านปุ่มด้านบนจุดเดียวเลย
มีไฟแสดงสถานะ และปุ่มอยู่ 4 ปุ่มครับ ปุ่ม Eco, WPS , X และ ปุ่ม Power
กดปุ่ม Eco จะเป็นการเปิดโหมดประหยัดหมึกครับ
กดปุ่ม WPS เพื่อเซตเครือข่ายไร้สาย โดยไม่ผ่านคอมพิวเตอร์ครับ อุปกรณ์ใหม่ๆ ส่วนมากจะมาพร้อมเทคโนโลยีนี้อยู่แล้ว
กดปุ่ม X ปุ่มนี้น่าจะได้ใช้บ่อยหน่อยครับ กด 1 ครั้งเพื่อยกเลิกงานที่กำลังพิมพ์ / กดค้างไว้ 2 วิ เพื่อพิมพ์ทดสอบ / กดค้างไว้ 4 วิ เพื่อพิมพ์ Prints configuration reports/network configuration reports / กดค้างไว้ 6 วิ เพื่อพิมพ์ Supplies Info & Usage Counter
ปุ่ม Power ก็ใช้เปิด/ปิด เครื่องพิมพ์ครับ
DSC05550_resize
การเปลี่ยนหมึกทำได้ง่ายดายมาก ง่ายกว่าทำมาม่าเสียอีก เปิดฝาด้านหน้าออกมา จะเห็นที่จับสีเขียว เราสามารถดึงออกมาได้เลย
DSC05554_resize
ดึงออกมาก็จะโล่งๆ แบบนี้แหละ หุหุ
DSC05557_resize
หน้าตาตลับหมีกครับ
DSC05556_resize
 เปรียบเทียบคุณภาพการพิมพ์ของแต่ละโหมดของ Samsung Xpress M 2825 DW
ผมใช้ไฟล์ภาพความละเอียด 1920x1200 ในการทดสอบนะครับ
Normal mode
normal_resize
High resolution
hd_resize
Eco Mode
eco_resize
ถ้าเทียบกันจะเห็นว่า High Resolution ส่วนโค้งจะมีความเนียนเรียบกว่า Normal mode
ส่วน Eco Mode จะเหมือนโหมด Normal ที่ลดความเข้มของภาพลง เพื่อประหยัดหมึกครับ

การใช้งาน Samsung Xpress M 2825 DW
สำหรับการพิมพ์ปกติคงไม่มีอะไรต้องอธิบาย ก็เหมือนเครื่องพิมพ์ทั่วไปสั่งพิมพ์ปกติเหมือนๆ กันน่ะแหละ แต่เครื่องพิมพ์รุ่นนี้สามารถสั่งพิมพ์ไร้สายจากสมาร์ทโฟนได้ด้วยนะครับ โดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลยล่ะ ซึ่งผมจะลองสั่งพิมพ์รูปผ่าน iPhone ดูนะครับ
ก็เข้าไปที่ Photos ตามปกติเลือกรูปที่พิมพ์มาสักรูป แล้วเลือกคำสั่ง Print
IMG_3198_resize
กดเลือก Select Printer จะเห็นเครื่องพิมพ์ Samsung อยู่ในลิสต์ครับ ผมไม่ได้ตั้งค่าอะไร มันก็มีขึ้นเลยนะ
IMG_3199_resize  IMG_3200_resize
จากนั้นกด Print ออกมาได้เลยครับ สะดวกมากๆ
IMG_3201_resize  IMG_3202_resize

ความเห็นจากไทยแวร์
จุดเด่น
  • ทำงานเงียบ
  • พร้อมใช้งานอย่างรวดเร็วไม่ต้องอุ่นเครื่องนาน
  • ประหยัดหมึกด้วย Eco โหมด
  • ตลับหมึกเปลี่ยนง่าย
จุดด้อย
  • เครื่องหนักทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาด
Samsung Xpress M 2825 DW เหมาะสำหรับผู้จำเป็นต้องเอกสารประจำ และต้องการความรวดเร็ว และแน่นอนว่าประหยัดด้วย ลูกเล่นพิมพ์ผ่าน Wi-Fi ก็สะดวกดี เช็คเมลล์ผ่านมือถือ ก็สั่งพิมพ์ออกมาได้เลยโดยตรง หมึกพิมพ์ก็ถอดเปลี่ยนง่ายและสะดวก ใครที่มองหาเครื่องพิมพ์เลเซอร์เล็กๆ ไว้ใช้งาน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ
http://review.thaiware.com/447-Samsung-Xpress-M2825DW.html